เอ็มอินเตอร์แอ็คชั่น บริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารทางการตลาดแบบดิจิตอลในเครือ กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) ได้ทำการวิจัยผู้บริโภคผ่านทางพฤติกรรมวิทยา (Ethology) และการทำการสัมภาษณ์เชิงเจาะลึก (In-depth Interview) โดยวิธีการเลือกสุ่มตัวอย่างผสมระหว่างแบบชั้นภูมิ (Stratified Sampling) และแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) กับ 100 กลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ทผ่านทางสมาร์ทโฟน และแทปเล็ต โดยพบว่าการทำการตลาดอย่างหนักจากแบรนด์ทั้งจากประเทศจีน และแบรนด์ของค่ายมือถือต่างๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา เช่นการลดราคาเครื่อง และการทำโปรโมชั่นแพคเกจ ทำให้เกิดผู้ใช้อินเตอร์เน็ทหน้าใหม่ในประเทศไทยขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคสื่อหลัก (Traditional media) และสื่อออนไลน์ที่เปลี่ยนไป
กลุ่มผู้ใช้หน้าใหม่คือใคร – WHO ARE THEY?
- เปิดซิงอินเตอร์เน็ทครั้งแรกกับสมาร์ทโฟน ผลสำรวจพบว่าคนกลุ่มที่เริ่มการใช้อินเตอร์เน็ทครั้งแรกผ่านทางสมาร์ทโฟนไม่เคยมีประสบการณ์การใช้อินเตอร์เน็ทมาก่อน พวกเขาไม่เคยใช้อีเมล์ ไม่เคยเล่นเวป และอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังใช้อินเตอร์เนตอยู่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ตอบว่าโทรศัพท์มือถือมีไว้เล่นเฟซ เล่นไลน์ แต่อินเตอร์เน็ตคืออะไร ไม่รู้จัก
ดังนั้นการเข้าถึงอินเตอร์เน็ทที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาคือ การใช้ผ่าน Application ที่ง่ายและไม่ซับซ้อน
- ใช้เงินอย่างฉลาด คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้พวกเขาต้องระมัดระวังการใช้เงิน สมาร์ทโฟนจึงถูกมองเป็นเครื่องมือที่สร้างประโยชน์มากกว่าการแสดงสถานะ หรือความทันสมัย คนกลุ่มนี้จึงมองสินค้าที่ความคุ้มค่า เช่นขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า โดยกลุ่มคนที่มีอิทธิพลในการตัดสินใจเลือกซื้อแบรนด์มือถือ ได้แก่ ลูกหลาน เพื่อน และคนใกล้ชิด
- พฤติกรรมแบบ Multi-Screener คนกลุ่มนี้จะใช้สมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามบางช่วงเวลาของวัน สื่อหลักอย่างโทรทัศน์ยังเป็นสื่อมีอิทธิพลสูงสำหรับคนกลุ่มนี้ เช่นในช่วงเวลาหัวค่ำ พวกเขามักจะใช้เวลาดูละครเรื่องโปรด หรือดูข่าว พร้อมๆ กับการอัพเดทเรื่องราวที่เห็นขึ้นบนสื่อโซเชียล
ทำไมต้องสมาร์ทโฟน
- สมาร์ทโฟน คือ “เครื่องมือทำมาหากิน”
จากการสำรวจพบว่าสมาร์ทโฟนไม่ใช่เครื่องมือเพื่อใช้สำหรับความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องช่วยทำมาหากิน ที่ทำให้พวกเขาหาลูกค้าและขายของได้มากขึ้น ช่วยพัฒนาศักยภาพในการทำงานให้ดีขึ้น อีกทั้งเพิ่มโอกาสทางด้านหน้าที่การงานและเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาดีขึ้นในหลายๆ ด้าน
- จะหาอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ได้หมด
ความคุ้นเคยกับการเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลาทำให้ไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้เปลี่ยนไป พวกเขาใช้โทรศัพท์เพื่อรับส่งข้อมูลและเล่นอินเตอร์เน็ท (data) มากกว่าโทร พวกเขาเลือกที่จะใช้บริการสถานที่เปิดให้บริการ WiFi ฟรีมากกว่าที่ที่ไม่มี และ มักจะสนใจแพคเกจโทรศัพท์ที่ให้ added value เรื่องของ Free Wifi และชั่วโมงอินเตอร์เนทที่มากขึ้น
- สมาร์ทโฟนคืออวัยวะที่ 33
เราสามารถเรียกว่าคนกลุ่มนี้เสพติดสมาร์ทโฟนคงไม่ผิด คนกลุ่มนี้ใช้สมาร์ทโฟนเกือบตลอดทั้งวัน ไม่ใช่ว่าเพราะคนกลุ่มนี้มีเวลาว่างมาก แต่จะมีช่วงเวลาทำงานที่มีเวลาไม่แน่นอน และมีช่วงพักผ่อนที่ยาวนานกว่าคนทำงานประจำ จึงทำให้ระยะเวลาในการใช้งานสมาร์ทโฟนก็ยาวนานตามไปด้วย “หากวันไหนลืมกระเป๋าสตางค์มาก็คงอยู่ได้ แต่วันไหนลืมเอามือถือมาต้องรีบกลับบ้านไปเอา”“การเช็คเฟสฯ นี่สำคัญมาก เช็คกันตลอดเวลาขนาดที่ว่าขี่รถติดไฟแดงก็ต้องเอาออกมาเช็ค เพราะเราไม่อยากพลาดข่าวสำคัญ”
ใช้สมาร์ทโฟนทำอะไร
CONSUME:
การเข้ามาของสมาร์ทโฟนทำให้พฤติกรรมการบริโภคสื่อหลักเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
- อ่านข่าวและบทความผ่านทาง Facebook แทนการอ่านหนังสือพิมพ์ เนื่องจากการอัพเดทที่รวดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย จนบางครั้งพวกเขารู้สึกว่าการอ่านข่าวผ่านทาง Facebook ให้ข่าวที่ทันเหตุการณ์และรวดเร็วกว่าทางจอโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์เสียอีก
- บทบาทของวิทยุและโทรทัศน์ในชีวิตประจำวันดลงอย่างชัดเจน เนื่องจากพวกเขาหันมาบริโภคความบันเทิงผ่านทาง YouTube มากขึ้น ด้วยเหตุผลของการเลือกคอนเทนท์ได้ตามใจชอบ ความรวดเร็วของคอนเทนท์ที่ถูกอัพโหลดลง YouTube อีกทั้งไม่ต้องทนดูโฆษณาเป็นเวลานาน ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ ฟังเพลง ดูหนัง ดูละคร ซีรียส์ ดูรายการโทรทัศน์ผ่านทางช่องทาง YouTube เป็นหลัก
- เริ่มรู้จักการหาข้อมูลจาก Google อิทธิพลของลูกหลานที่สอนวิธีการใช้สมาร์ทโฟนอย่างง่ายๆ และแนะนำการใช้ Google ในการหาข้อมูล คิดอะไร อยากหาอะไร ก็พิมพ์ลงไปแบบง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก
CONNECT:
ต่อติดเพื่อนเก่า และลดค่าใช้จ่าย
- สมาร์ทโฟนมีประโยชน์ต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่นการใช้ LINE กับ Wifi คุยกันภายในครอบครัว ตัวอย่างเช่นการใช้ LINE Group Chat เพื่อติดต่อสื่อสารภายในองค์กรราชการ ระหว่างชุมชน หรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงาน เพื่อลดค่าโทรศัพท์ และค่าใช้จ่ายในการถ่ายเอกสารเพื่อติดประกาศ
- LINE Group Chat ช่วยให้คนเหล่านี้ต่อติดกับเพื่อนเก่าๆ อีกครั้ง ดังนั้นการใช้งานสมาร์ทโฟนสำหรับเขานอกจากจะเป็นเครื่องมือที่ให้ความสะดวกสบายแล้ว ยังมีความสนุก และคุณค่าทางจิตใจที่มากขึ้น
COMMERCE:
ช่องทางใหม่ในการทำเงิน และใช้เงิน
- สมาร์ทโฟนช่วยสร้างธุรกิจ พวกเขาเรียนรู้ที่จะใช้ Facebook และ LINE เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ทั้งการโพสรูปเพื่อขายสินค้า ส่งรายละเอียดสินค้า ติดต่อคู่ค้า และลูกค้า ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ความปลอดภัยคือเรื่องใหญ่ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ยังไม่คุ้นเคยกับการทำธุรกรรมการเงินทางอินเตอร์เนท ทำให้ยังไม่วางใจและเลือกที่จะใช้การโอนเงินผ่านทาง ATM แทนการใช้ Internet Banking เพื่อจ่ายค่าสินค้า และบริการ
บทสรุป
แบรนด์จะเข้ามาหาคนกลุ่มนี้ได้ ต้องทำอย่างไร
RELEVANCY – สร้างความคุ้นเคย
Content หรือเนื้อหา เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะทำให้แบรนด์เกิดความคุ้นเคยกับผู้บริโภค การเลือกเนื้อหาที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ เรื่องที่เขาสนใจ ใช้ภาษาที่เป็นกันเอง เข้าใจง่าย เช่น ภาษาวัยรุ่น ภาษาท้องถิ่น ทำให้แบรนด์เกิดการจดจำ อีกทั้งการเลือกใช้ Geo-targeting ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จำเลือกสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ADAPTIVE – ตามกระแสให้ทัน
การใช้ Real-time Marketing เป็นอีกวิธีที่จะทำให้แบรด์เป็นที่พูดถึงอยู่ในกระแสสังคมในเวลานั้นๆ
AUTHENTICITY – ต้องเป็นของแท้และโดดเด่น
นอกจากเนื้อหาที่ดีแล้ว การใส่ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอก็เป็นส่วนสำคัญ โดยเนื้อหาหรือข้อความทีเกิดขึ้นจากผู้บริโภคเอง (User Generated Content) มีความน่าเชื่อถือมากกว่าสิ่งออกจากแบรนด์
CONNECTIVITY – ต่อให้ติด
แบรนด์สามารถทำตัวเป็นตัวกลางทำให้เพื่อนและสมาชิกในครอบครัวสนิทกันมากขึ้น หรือแม้เป็นตัวกลางระหว่างการซื้อขายสินค้า เปิดโอกาสทางการค้าให้กับคนกลุ่มนี้ได้มากขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
แผนกพัฒนาและการตลาด กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย)
ณัฐวีร์ ณีว มาวิจักขณ์
Neil.Mavichak@groupm.com
แพน จรุงธนาภิบาล
Pan.Jroongtanapibarn@groupm.com